แนวโน้มการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า

29 ต.ค. 2565

ด้วยราคาแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ถูกลงเรื่อยๆ ทำให้ไม่เกิน 8 ปีนับจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาถูกกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันและแก๊สแบบเดิมอย่างแน่นอน

 

อนาคต EV
งานวิจัยของ Bloomberg เรื่อง New Energy Finance ชี้ว่า ต้นทุนของแบตเตอรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลงทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและโซนยุโรปจะมีราคาถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันและแก๊สแบบเดิม

ข้อมูลภาพจาก:Bloomberg



ตัวเลขจากกราฟชี้ชัดว่า แบตเตอรี่ไฟฟ้าจะมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่องกว่า 77% นับตั้งแต่ปี 2016 – 2030 และในช่วงหลังปี 2026 ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกกว่ารถยนต์แบบเดิม แน่นอนว่าแนวโน้มนี้จะทำให้ผู้คนหันมาสนใจใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น

ทั้งนี้ประเทศแถบยุโรปพาเหรดขีดเส้นตายเลิกขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง โดยใช้มาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจให้ค่ายรถยนต์ยุติการผลิตและจำหน่าย พร้อมทั้งหันมาส่งเสริมรถอีวี หรือรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่ปล่อยมลพิษแทน

ประเทศเยอรมนี ประกาศภายในปี 2030 ขณะที่ “ฝรั่งเศส” และ “อังกฤษ” ตั้งเป้าราวปี 2040 ในขณะที่โซนเอเชีย “จีน” ซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ตามมาด้วย “อินเดีย” คาดหวังว่าไม่เกินปี 2030 ทั้งสองประเทศนี้จะมีแต่รถยนต์ไฟฟ้า

หลังจากอินเดียประกาศทิศทางของอุตฯรถยนต์ในบ้านไม่นาน “ศรีลังกา” ก็เล็งให้หน่วยงานรัฐยกเลิกใช้รถยนต์เติมน้ำมันภายในปี 2025 เช่นกัน ที่สำคัญเร็วกว่าถึง 5 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศรีลังกายืนยันว่า เริ่มให้หน่วยงานรัฐหันหลังให้น้ำมันแล้วมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนให้ได้ภายในปี 2025 และจะขยายไปยังรถทั่วไปของประชาชนภายในปี 2040

รัฐบาลศรีลังกาวางแผนที่จะยกเลิกการใช้รถยนต์สันดาปภายใน โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะในอีก 8 ปีข้างหน้าส่วนรถของประชาชนจะยังสามารถใช้งานได้ถึงปี 2040 ก่อนที่จะให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงรถตุ๊กตุ๊ก และมอเตอร์ไซค์ ก็ต้องทำตามกฎเกณฑ์ครั้งนี้ด้วย โดยรัฐบาลจะยังกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาดด้วยการประกาศมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะมาตรการทางภาษี รวมถึงลดภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการคิดอัตราภาษีใหม่ที่คำนวณจากคาร์บอนจากรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงด้วย

นักวิเคราะห์หลายคนระบุตรงกันว่า ประเทศศรีลังกามีรถยนต์ประมาณ 6.8 ล้านคัน โอกาสจะทำให้ทุกอย่างเป็นจริงดูจะง่ายกว่าหลาย ๆ ประเทศ

 

และหลังจากรัฐบาลไทยประกาศแผนสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทำให้ทั้งฝั่งผู้ประกอบการและฝั่งผู้บริโภคเริ่มเห็นภาพตลาดที่ชัดเจน ถูกพูดถึงและอยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า แบบผสมเสียบปลั๊ก (Plug-In Hybrid Electric Vehicle :PHEV)

ทั้งนี้บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)ได้ทำสถานี EV Charging Station สำหรับรองรับรถไฟฟ้าในอนาคตให้กลับลูกบ้าน Condo ได้แก่ โครงการนิช โมโน สุขุมวิท 50, นิช โมโน พีค บางนา, นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง และบ้านเสนา ได้แก่ เสนาวิลล์ บรมราชชนนี-สาย 5, เสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา-วงแหวน ที่มี solar station รองรับอนาคตไว้แล้ว

 

"แนวโน้มการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV มีสูงขึ้น จากการที่สามารถลดต้นทุนอย่างแบตเตอรี่ไฟฟ้าได้ โดยในปี 2025 คาดการณ์ว่าจะมีราคาที่เท่าๆ กับรถยนต์แบบเดิม และหลังจากนั้นจะมีราคาที่ถูกลงอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะรถยนต์ไฟฟ้าคือหนึ่งในทางเลือกของโลกอนาคตที่ต้องการลดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"

ที่มา: เว็บไซต์ประชาชาติ,Bloomberg

รวบรวมเนื้อหาสาระ ส่งมอบความสุข ความบันเทิง ให้เพลิดเพลินไปกับการอ่าน
Facebook: http://bit.ly/sena_facebook
Youtube: http://bit.ly/sena_youtube