คิดจะซื้อบ้านสักหลัง คอนโดสักห้อง เคยคิดมั้ยต้องเตรียมเงินเท่าไหร่สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้อยู่ในยอดวงเงินกู้สินเชื่อ! เสนารวบรวม #9ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเมื่อคิดจะซื้อบ้านหรือคอนโด ที่เราอาจต้องเตรียมจ่ายเป็นเงินสดมาฝาก...สำหรับคนที่คิดจะลงหลักปักฐานมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ และสำคัญที่สุดคือเตรียมความพร้อมของกระเป๋าสตางค์กันด้วยนะคะ

1. เงินก้อนแรกต้องเตรียม!
🔹 #เงินจอง
เงินจองหรือค่าจอง เป็นเงินที่เราจ่ายให้ผู้ขาย เพื่อรับประกันว่าเราจะซื้อบ้านหรือคอนโดนี้จริงๆ โดยเงินจองจะแตกต่างกันไปตามโปรโมชันของแต่ละโครงการ มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นขึ้นไป
🔹 #เงินทำสัญญา
หลังจากการจองประมาณ 7-14 วัน ผู้ขายจะติดต่อให้เราเข้าไปทำสัญญาซื้อขาย โดยระบุรายละเอียดต่างๆ ที่เราควรอ่านให้ครบถ้วนก่อนชำระเงินทำสัญญา ในส่วนของเงินทำสัญญาก็เช่นเดียวกับเงินจองคือทางโครงการจะกำหนดมาตามมูลค่าของบ้านหรือคอนโดที่เราซื้อ โดยเงินจองและเงินทำสัญญานี้จะรวมอยู่ในเงินดาวน์ของเรานั่นเอง
🔹 #เงินดาวน์
สำหรับการซื้อบ้าน เงินดาวน์จะมีตั้งแต่ 5% – 10% ของราคาบ้าน ส่วนคอนโด ถ้าเป็นโครงการที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างใหม่ๆ ผู้ซื้ออาจจะวางเงินดาวน์เป็นก้อนทีเดียว หรือแบบแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ตามเงื่อนไขโครงการ โดยจะอยู่ที่ 10 – 15 % ของราคาคอนโด

2. เงินระหว่างโอนกรรมสิทธิ์
🔹 #ค่าจดจำนอง
เมื่อถึงวันโอนกรรมสิทธิ์ จะมีค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่าบ้านหรือคอนโดที่จดจำนอง เป็นการจ่ายให้กับสำนักงานที่ดินเพื่อเอาบ้านหรือคอนโดเป็นหลักประกันหนี้ให้กับธนาคาร ในกรณีที่มีการกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย
🔹 #ค่าธรรมเนียมการโอน
ค่าธรรมเนียมการโอนจะอยู่ที่ 2% ของราคาประเมิน โดยส่วนใหญ่จะแบ่งกันจ่ายคนละครึ่งหรือประมาณ 1% ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
🔹 #ค่าอากรสแตมป์
สำหรับการจดทะเบียนโอน กรมที่ดินจะเก็บค่าอากรแสตมป์ในอัตราร้อยละ 0.5 จากราคาซื้อขาย และเนื่องจากรัฐออกมาตราการลดค่าธรรมเนียมการโอน จาก 2% เป็น 0.01% และค่าจดจำนอง จาก 1% เป็น 0.01% สำหรับการซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง บ้าน คอนโด ทาวน์โฮม มูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขคือต้องโอนและจดจำนองพร้อมกัน มีผลบังคับใช้จนถึงเดือนธันวาคม 2563 นี้
