หลายคนอาจคิดว่าการติดแผง Solar Roof นั้นก็คงให้ผลตอบแทนเหมือนๆกัน ตกลงแล้ว ถ้าคิดจะติดแผงโซลาร์บนหลังคา ต้องใช้เวลาคืนทุนกี่ปี การคำนวณจุดคุ้มทุนนี้เป็นเรื่องยากโดยเฉพาะสำหรับบ้านอยู่อาศัย เนื่องจากแต่ละครอบครัวใช้เวลาในการอยู่บ้านไม่เท่ากันและใช้ไฟในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะขอยกตัวอย่างเป็น โฮมออฟฟิศ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
ปัจจัยสำคัญเรื่องการคิดจุดคุ้มทุนมาจากเรื่องของต้นทุนการคิดนั่นเอง ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของบ้านเลือกวิธี Financing แบบไหน หลักๆแล้วมีด้วยกัน 4วิธี คือ ซื้อเงินสด กู้แบบ Personal Loan หรือสินเชื่อส่วนบุคคล กู้ผ่านบ้าน และกู้พร้อมบ้าน โดยมีวิธีการคำนวณคร่าวๆดังนี้

1.ซื้อเงินสด
กรณีคุณซื้อเงินสดลงทุนซื้อแผงเองทั้งหมด ไม่กู้จากธนาคารเลยสักบาท ด้วยกำลังผลิต 3.6 กิโลวัตต์นี้ คุณจะสามารถ ประหยัดค่าไฟได้เดือนละ 2,030.40 บาท หรือปีละ 24,364.80 บาทโดยมีส่วนต่างระหว่างค่าไฟที่ประหยัดปีละ 18,064.80 บาท โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับการฝากเงินประจำ อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.5% ต่อปี ดังนั้นจะให้ดอกเบี้ย 5,355 บาทต่อปี หรือเฉลี่ย 446 บาทต่อเดือน (หลังหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดา)

2.กู้แบบ Personal Loan
กรณีซื้อแผง โซลาร์รูฟท็อป ราคา 252, 000 บาทเหมือนเดิม ถ้าคุณกู้ผ่านสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 9.9 เปอร์เซ็นต์ จะต้องผ่านเดือนละ 2,690 บาท หรือปีละ 32,280 บาท นาน 9 ปี จึงจะคุ้มทุน โดยต้องจ่ายเพิ่มส่วนต่างระหว่างค่าไฟที่ประหยัดได้ต่อปี (24,364.80 บาท) กับอัตราผ่อนต่อปี (32,280 บาท) อีกปีละ 7,915.20บาท

3.กู้ผ่านบ้าน
หากเลือก Financing ผ่านบ้านของเราเอง อัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ 4.25 เปอร์เซ็นต์ใน 3 ปีแรก จากนั้นเพิ่มเป็น 6.5 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ 4-30 ในโจทย์เดียวกันกับข้างต้น ดอกเบี้ยการกู้ด้วยวิธีนี้จะถูกกว่าแบบที่สอง และหากผ่อนกับธนาคาร เดือนละ 1,336 บาท หรือปีละ16,032 บาท รวมกับส่วนต่างค่าไฟที่ประหยัดได้อีก 2,030.40 บาทต่อเดือน หรือ 24,634.80 บาทต่อปีโดยมีส่วนต่างระหว่างค่าไฟที่ประหยัดได้กับอัตราค่าผ่อนบ้าน ปีละ 8,332.80 บาท ใช้เวลา 30 ปีถึงจะคุ้มทุน
