SENA ควงแขน “ฮันคิวเรียลตี้” อสังหาฯ รายใหญ่จากแดนปลาดิบ

SENA ควงแขน “ฮันคิวเรียลตี้”
อสังหาฯ รายใหญ่จากแดนปลาดิบ
ผุดคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า 2 โครงการ มูลค่า 7,000 ลบ.
ชู Geo Fit สร้างจุดขาย
“สร้างที่อยู่อาศัยจากวิธีคิดแบบญี่ปุ่น”

 

SENA ผนึก “ฮันคิวเรียลตี้” ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่จากแดนปลาดิบ นำร่องเปิด 2 โครงการคอนโดมิเนียม แนวรถไฟฟ้า เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน “นิช ไพรด์ เตาปูน อินเทอเชนจ์ และ นิช โมโน สุขุมวิท 70” มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว “Geo Fit” trustmark ใหม่ ชูแนวคิดสร้างที่อยู่อาศัยจากวิธีคิดแบบญี่ปุ่น ผู้บริหารหญิงแกร่ง “ดร.ยุ้ย ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” มั่นใจกระแสตอบรับเยี่ยม หวังผลักดันแบรนด์และยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยและในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า บริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SENA กับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) หนึ่งในกลุ่มบริษัท Hankyu Hanshin Holding Group ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น เดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน โดยเน้นพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งในปีนี้มีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเทอเชนจ์ และล่าสุดที่จะมีการเซ็นสัญญาร่วมลงทุนในโครงการ “นิช โมโน สุขุมวิท 70”

“นับเป็นโครงการที่สองที่ ฮันคิว เรียลตี้ ได้ให้ความไว้วางใจร่วมทุนกับบริษัท จากโครงการแรก คือ นิชไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ที่ได้ลงนามร่วมทุนกันไปเมื่อเดือน ธันวาคม 2559 และในครั้งนี้เป็นต่อยอดเดินหน้าร่วมทุนเป็นโครงการที่ 2 แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ดีร่วมกันในครั้งแรก ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีการร่วมทุนเพิ่มขึ้นเป็นโครงการที่ 3 ที่ 4 ต่อไป ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต”

ผศ.ดร.เกษรา กล่าว โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท 70 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับสูง (High-Rise) ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,270 ยูนิต และตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีแบริ่งเพียง 250 เมตร โดยสถานีแบริ่งเป็นสถานีที่สะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสถานีอโศกซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของกรุงเทพฯ นอกจากนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งเป็นเส้นทางไปสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิอีกด้วย

อย่างไรก็ตามโครงการอสังหาฯที่ เสนา ฮันคิว ดำเนินการร่วมกันนั้น เกิดขึ้นภายใต้แนวความคิดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ทางฮันคิวเรียกว่า “Geo Fit” ซึ่งเป็นแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจในรายละเอียดและเข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างลึกซึ้ง สามารถนำมาใช้กับการสร้างอยู่อาศัยอย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถสรุปรวมออกมาได้เป็น

Japanese Functionality - คือ ฟังค์ชั่นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ Japanese Innovation - นวัตกรรมแนวคิดใหม่ๆ ที่คิดออกมา เพื่อการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ Japanese Design - กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ในการออกแบบ

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ บริษัทจะเปิดตัวการทำ Branding ของ Geo Fit จากฮันคิว ในวันนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็น Branding ในลักษณะ Trustmark หรือการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความชำนาญพิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ เหมือนกับตราประทับรับรองในคุณภาพของสินค้าและตราประทับ Geo Fit จากฮันคิวนี้ จะอยู่ร่วมกับทุกโครงการที่ เสนา ฮันคิว ทำร่วมกัน และจะถูกใช้ในการสื่อสารการตลาด และแม้แต่ประกอบอยู่ในส่วนต่างๆของโครงการหรือองค์ประกอบในห้อง ที่พัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิดนี้

ด้านนายริวอิจิ โมโรโทมิ ประธาน บริษัท ฮันคิว เรียลตี้ (ประเทศญี่ปุ่น) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีประวัติการดำเนินงานในนามกลุ่มบริษัทฮันคิว มายาวนานกว่า 100 ปี โดยธุรกิจหลักคือการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟที่ดำเนินการโดยบริษัทฮันคิว โดยกลุ่มบริษัทฮันคิว มีแนวคิดในการทำงานที่ว่า “ใส่ใจต่อการบริการลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง” นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานทางบริษัทได้เพิ่มความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่และจากประวัติการดำเนินงานทางบริษัทมีผลงานในการก่อสร้างบ้านพักที่อยู่อาศัยกว่า 60,000 ยูนิต คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “จีโอ” กว่า 20,000 ยูนิต“

บริษัทมีคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาโครงการ “Geofit+” (Geo fit plus) ที่สะท้อนปรัชญาในการทำงานของบริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด ที่ต้องการจะนำเสนอที่อยู่อาศัยที่เปี่ยมด้วยคุณภาพให้กับลูกค้า ในครั้งนี้ ทางบริษัทของเรา มีแนวความคิดสอดคล้องกับทางบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จึงอยากจะมีโอกาสขอบคุณที่ได้ร่วมงานกันและขอให้คำมั่นสัญญาที่จะเป็นหุ้นส่วนในระยะยาวและมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อที่จะสร้างคุณค่าให้กับโครงการที่พักอาศัยใหม่ๆ ในประเทศไทย” นายริวอิจิ กล่าวในที่สุด