อย่างที่รู้กันค่ะ ว่าโครงสร้างประชากรจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจ ปัจจุบันพบว่าอัตราการเติบโตของประชากรของไทยลดลง ขณะที่ประชากรผู้สูงอายุกับมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโอกาสทางธุรกิจ ดิฉันเชื่อว่าธุรกิจที่อยู่อาศัยนั้น ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้ เพราะกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งแหล่งงาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางสังคม มีสาธารณูปโภคต่างๆ ครบสมบูรณ์ ทำให้ประชากรจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาเพื่อหางานทำ ส่วนหนึ่งเข้ามาศึกษาหาความรู้ในเมือง ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยยังมีความต้องการซื้อและค่อนข้างเติบโตได้
 

ขณะที่ประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา เปิดกว้างต้อนรับนักลงทุนจากต่างชาติ เราจึงเห็นนักธุรกิจหรือชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน ทำงาน เปิดกิจการต่างๆ ในประเทศไทยค่อนข้างมาก ทั้งตะวันตกและตะวันออก แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากับพบว่ามีคนจีนมีเข้ามามากขึ้น ประมาณ 8.2 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 28% ปีนี้คาดว่าจะมากถึง 10 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 5.26% (ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ เดือน ต.ค. 2560) ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวและสำคัญที่สุดของโลก ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้ความน่าสนใจในตลาดที่อยู่อาศัยมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน และลูกค้าในกลุ่มนี้จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยในช่วงเดินทางเข้ามาเที่ยวในเมืองไทย หรือซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า นั่นเพราะเมื่อเทียบกับราคาอสังหาฯ ไทยก็ถือว่ายังถูกกว่าอีกหลายประเทศ

 
                         
                         
                         
                         
                                             
                        