ช่วงปีใหม่ดิฉันมีโอกาสได้อ่านหนังสือที่ชื่อว่า Option B: Facing Adversity, Building Resilience, and Finding Joy เขียนโดย Sheryl Sander berg และ Adam Grant ซึ่งอ้างอิงถึงประสบการณ์ของ Sander berg ซึ่งเป็น COO ของ Facebook ในช่วงชีวิตที่เธอสูญเสียสามีไปและต้องอยู่กับลูกชายตามลำพัง โดยในช่วงนั้นเธอต้องประสบกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตเนื่องจากต้องทนอยู่กับภาวะที่เสียใจและอ้างว้างอย่างหนักหลังการจากไปของสามี และลูกของเธอเองก็ต้องประสบสภาวะนั้นด้วย
โดยจุดที่เป็นประเด็นให้เกิดหนังสือเล่มนี้มาก็คือ หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตแล้ว Sheryl ต้องตกอยู่ในสภาพที่อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวและทรมานอย่างมากจากการที่ไม่มีสามีเคียงข้าง เธอกล่าวว่าสิ่งที่เกิดกับเธอหลังจากสามีตายนั้นเสมือนหนึ่งมีช่องว่างขนาดใหญ่เกิดขึ้นในหัวใจและปอด ที่ปิดกั้นเธอเองแม้กระทั่งความสามารถที่จะคิดอ่านทำสิ่งใดหรือแม้กระทั่งการหายใจเพื่อให้มีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายเธอออกจากอาการซึมเศร้าและสาหัสทางใจนี้ได้จากคำแนะนำของเพื่อนเธอคนหนึ่งที่บอกกับเธอว่า Dave นั้นเสมือน Option A ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตกับเธอได้แล้ว แต่ตัวเขาสามารถเป็น Option B ที่จับต้องได้และพร้อมที่จะเดินทางไปด้วยกันในชีวิตใหม่หลังจากนี้ หนังสือเล่มนี้ใช้เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นและพูดถึงการที่เราต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถทำให้ชีวิตไปสู่จุดที่เราผิดหวังและซึมเศร้าอย่างรุนแรงได้ ขณะเดียวกันก็เสนอว่าเราควรยอมรับมันให้ได้และเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับทางเลือกอื่นหรือ Option B ที่เข้ามาในชีวิตและก้าวเดินต่อไปอย่างมีพลัง
หากเรากลับมามองที่ความเป็นจริงในชีวิตของเราแต่ละคนนั้นเชื่อว่าหลายคนมีโอกาสที่ต้องพบกับสถานการณ์ไม่ต่างจาก Sander bergได้เสมอ เหตุการณ์ในชีวิตนั้นสามารถพลิกผันเป็น Worst Case Scenario ได้เสมอ หากเราไม่สามารถยอมรับกับ Option B ที่เข้ามาในชีวิตได้ เราก็ต้องตกอยู่ในภาวะที่ซึมเศร้า หดหู่ และสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้
