NOTE:
โดยปกติแล้วเรามักจะวัดความสำเร็จพื้นฐานของการทำธุรกิจจากยอดขายสินค้าแต่ละตัวที่ขายได้และผลสุดท้าย สินค้าแต่ละตัวทำกำไรให้บริษัทได้หรือไม่ ถ้าสินค้าที่ทำออกมามียอดขายที่สูงและเป็นแหล่งทำกำไรที่มั่นคงก็นับว่า ธุรกิจประสบความสำเร็จกับสินค้าตัวนั้น กรณีสินค้าที่ขายอยู่เป็น Commodities ที่เป็นที่คุ้นเคยของผู้บริโภคอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นสบู่ ยาสีฟัน ปากกา โทรศัพท์มือถือ ผู้ประกอบการก็จะเลือกกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่นเพื่อให้สินค้ามีความแตกต่างจากคู่แข่ง ขณะเดียวกันก็ยังใช้การแข่งขันด้านราคาเพื่อดึงดูดการซื้อจากผู้บริโภค กล่าวคือสินค้าที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้วในตลาดจะเน้นการแข่งขันด้านแบรนด์และราคาเป็นหลักนั่นเอง 
แต่สินค้าที่ผลิตขึ้นมาใหม่ด้วยนวัตกรรมและไม่เคยมีขายมาก่อนในตลาดนั้น ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จนั้นย่อมแตกต่างจากสินค้าปกติที่เป็นที่รับรู้อยู่แล้วในตลาด ทั้งนี้เนื่องจากเป็นสิ่งที่ใหม่ในสายตาของทั้งผู้บริโภคและผู้กำกับดูแลของภาครัฐ ทำให้ตลาดของสินค้าใหม่นั้นไม่สามารถใช้กลยุทธ์ด้านแบรนด์และราคาแบบสินค้าปกติได้ อีกทั้งธุรกิจเองก็ต้องแบกรับความเสี่ยงในฐานะผู้ลงทุนรายแรกในตลาดอีกด้วย โดยสินค้าใหม่นั้นจำเป็นต้องพึ่งปัจจัยขับเคลื่อน 3 ประการได้แก่ เทคโนโลยีที่ดี การยอมรับของตลาด และกฎหมายกฎระเบียบต่างๆที่ตีกรอบการแข่งขัน
ในส่วนของกฎหมายหรือกฎระเบียบต่างๆนั้นมีทั้งกฎที่สร้างแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนพัฒนาตัวสินค้า เอื้อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าตัวใหม่ได้ในราคาที่ไม่สูงหรือเสนอประโยชน์บางอย่างที่น่าสนใจ อีกแง่หนึ่งกฎระเบียบในตลาดก็อาจเป็นอุปสรรคในการพัฒนาสินค้า เพิ่มภาระด้านต้นทุนและการดำเนินงาน และทำให้ผู้บริโภคมีต้นทุนการเข้าถึงที่สูงได้เช่นกัน ฉะนั้นแล้วกฎหมายกฎระเบียบต่างๆจึงเป็นกรอบที่จะกำหนดการแข่งขันว่าจะเอื้อหรือบั่นทอนศักยภาพการเติบโตของสินค้าใหม่ในตลาดเพียงใด 
ในเรื่องของเทคโนโลยีนั้นในขั้นแรกของการพัฒนาสินค้า ผู้ประกอบการจะมีต้นทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สูง ขณะเดียวกันก็ต้องแบกรับความเสี่ยงที่เทคโนโลยีนั้นจะตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานของผู้บริโภคด้วย เทคโนโลยีที่นิ่งแล้วย่อมทำให้สินค้าที่ออกมาไม่มีข้อผิดพลาดและสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีและแน่นอนในสายตายผู้บริโภคด้วย 
ข้อสุดท้ายคือการยอมรับในตลาด หากสินค้าที่ออกมานั้นได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อในตลาด ผู้ผลิตย่อมมีความมั่นใจในการลงทุนขยายการผลิตสินค้าตัวนี้ ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนและเห็นโอกาสในการพัฒนาแบรนด์ในอนาคต

 
                         
                         
                         
                         
                                             
                        